เมนู

กฏัจฉุภิกขาทายิกาเถรีอปทานที่ 7 (7)


ผลของการถวายภิกษา 1 ทัพพี


[147] ดิฉันได้ตักเอาภิกษาหนึ่งพันทัพพี
ถวายแด่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด พระนามว่า
ติสสะ บรมศาสดา ซึ่งกำลังเสด็จเที่ยวบิณฑบาต
อยู่
พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ บรม-
ศาสดา ผู้นำชั้นของโลก ทรงรับแล้วประทับ
ยืนทำอนุโมทนาแก่ดิฉันกลางถนนว่า
ท่านถวายภิกษาหนึ่งทัพพีแล้ว จักไป
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จักได้เป็นพระอัครมเหสีของ
ท้าวสักรินเทวราช ถึง 36 พระองค์ จักได้เป็น
พระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ 50 พระองค์
ท่านจักได้สิ่งที่ใจปรารถนาในกาลทั้งปวง
ท่านเสวยสมบัติแล้ว จักเป็นผู้ไม่มีความ
ห่วงใยออกบวช กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วจัก
เป็นผู้ไม่มีอาสวะนิพพาน
พระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้นำชั้น
เลิศของโลก เป็นนักปราชญ์ ครั้นตรัสดังนี้แล้ว
ก็เหาะขึ้นสู่นภากาศ เหมือนพระยาหงส์บินอยู่ใน
อัมพรฉะนั้น.

ทานดิฉันได้ให้ดีแล้วทีเดียว ยัญสมบัติ
ดิฉันได้บูชาดีแล้ว ดิฉันบรรลุบทอันไม่หวั่นไหว
ได้ ก็เพราะถวายภิกษาหนึ่งทัพพี ในกัปที่ 92
แต่กัปนี้ ดิฉันได้ถวายทานใดในกาลนั้น ด้วย
ทานนั้น ดิฉันไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการ
ถวายภิกษา
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว . . . คำสอน
ของพระพุทธเจ้า ดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.

ทราบว่า ท่านพระกฏัจฉุภิกขาทายิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบกฏัจฉุภิกขาทายิกาเถราอปทาน

สัตตอุปลมาลิกาเถรีอปทานที่ 8 (8)



ผลของการถวายดอกอุบล 7 ดอก



[158] ในพระนครอรุณวดี มีพระ-
มหากษัตริย์พระองค์หนึ่งพระนามว่า อรุณ ดิฉัน
เป็นพระอัครมเหสีของท้าวเธอ
ดิฉันร้อยพวงมาลัยอยู่ ได้หยิบเอาดอก
อุบลมีกลิ่นหอมเหมือนทิพย์มา 7 ดอก แล้วนั่ง
ลงในปราสาทอันประเสริฐ คิดขึ้นในขณะนั้น
เองว่า